วิวัฒนาการของโลกปัจจุบันได้สร้างสรรค์ความเจริญก้าวหน้าในทุกๆ ด้านอย่างไม่หยุดยั้ง ทําให้เกิดการขยายตัวของทุกธุรกิจเพื่อรองรับความต้องการของมนุษย์ โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ได้เพิ่มทวีและมีบทบาทสําคัญต่อเศรษฐกิจในระดับประเทศมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง ปริมาณความต้องการวัตถุดิบคาร์บอนแบลกจึงเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
บริษัท ไทยโตไกคาร์บอนโปรดักท์ จํากัด หรือ TCP ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2532 เพื่อตอบสนองความต้องการ คาร์บอนแบลกของผู้ผลิตสินค้าอุตสาหกรรมยานยนต์ภายในประเทศ โดยมีโรงงานตั้งอยู่ ณ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
ซึ่งพร้อมด้วยอุปกรณ์การผลิตที่ทันสมัย วิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ผลิตคาร์บอนแบลกตอบสนองความต้องการภายในประเทศและต่างประเทศได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงปัจจุบัน เป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำสนับสนุนกลุ่มยานยนต์ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่สำคัญของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี
ภายใต้ปรัชญาการดําเนินงานของบริษัทซึ่งเป็นผู้นําในการผลิตคาร์บอนแบลกและเป็นหนึ่งด้านคุณภาพ ตลอดจนบริการที่ยอดเยี่ยม TCP ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีในหลากหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านเทคโนโลยีการผลิตรวมถึงวิศวกรผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทโตไกคาร์บอนจํากัด ผู้ถือหุ้นเพียงรายเดียวซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์และเทคโนโลยีการผลิตคาร์บอนแบลกชั้นนําระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่น
คาร์บอนแบลก คือ ผลผลิตจากน้ำมันชนิดหนัก เมื่อผสมกับยางจะให้คุณสมบัติทนต่อแรงเสียดทานและมีความยืดหยุ่นสูง คาร์บอนแบลกที่ผลิตโดย TCP มีขนาดของเม็ดเท่ากันอย่างสม่ำเสมอ ปลอดการปนเปื้อน เมื่อนำไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตยาง จะให้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูงและตรงตามความต้องการ ในปัจจุบัน TCP ผลิตคาร์บอนแบลกทั้งประเภท Hard Grade และ Soft Grade รวมมากกว่า 10 เกรด เพื่อตอบสนองความต้องการต่อวัตถุประสงค์การใช้งานที่มี ความหลากหลาย ได้แก่ N-134 N-220 N-234 N-326 N-330 N-339 N-375 N-351H N-550 N-660 และ N-774 แต่ละเกรดจะมีคุณสมบัติเฉพาะ เมื่อนําไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตชิ้นส่วนยางก็จะได้ยางคุณภาพที่แตกต่างกัน อาทิเช่น ให้ความเหนียว ทนต่อแรงดึงและแรงเสียดทาน มีการหดตัวน้อย มีความยืดหยุ่นสูง รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเพื่อให้ได้คาร์บอนแบลกเกรดพิเศษ (Low grit) ได้แก่ G-N550 G-N660 G-N774 ที่เน้นความเรียบเนียนของพื้นผิวยางเป็นพิเศษ
TCP ห่วงใยใส่ใจในการควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อมด้วยมาตรการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่ครบวงจร เริ่มตั้งแต่ การคัดเลือกวัตถุดิบ การเลือกใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม การนําพลังงานความร้อนจากก๊าซเชื้อเพลิงที่ได้จากกระบวนการผลิตไปใช้เพื่อการผลิตไอน้ำและไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอภายในโรงงาน ผลที่ได้คือ สามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าของประเทศลงได้อย่างมาก และไม่เพียงแต่หมุนเวียนพลังงานความร้อนจากก๊าซเหลือทิ้งไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเท่านั้น TCP ยังให้ความสําคัญต่อการบําบัดของเสีย ได้แก่ กํามะถัน ด้วยการติดตั้งระบบกําจัดกํามะถันออกจากก๊าซเหลือทิ้ง (Flue Gas Desulfurization System : FGD System) ซึ่งจะปล่อยออกสู่บรรยากาศทางปล่องคอนกรีตสูง 100 เมตร เพื่อเป็นการควบคุมการกระจายตัวของก๊าซให้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งการควบคุมน้ำทิ้งโดยการนําน้ำเสียเข้าสู่ระบบบําบัด เพื่อปรับสภาพให้ดีได้มาตรฐานก่อนปล่อยออกสู่ภายนอก
TCP ให้ความสําคัญต่อกระบวนการจัดการภายในองค์กร เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปรัชญาการดําเนินงานด้านทรัพยากรมนุษย์
TCP เน้นการเสริมสร้างและรักษา เสริมองค์ความรู้ และถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตซึ่งเป็นความรู้เฉพาะธุรกิจให้ดํารงอยู่และพัฒนา เพื่อก้าวสู่การแข่งขันในระดับภูมิภาค สร้างโอกาสในการเติบโตก้าวหน้าในอาชีพ และรักษาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถให้อยู่กับองค์กร ด้วยความรัก และภาคภูมิใจ
TCP มุ่งมั่นสนองความต้องการพื้นฐานและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมคุณภาพ การได้รับการรับรองระบบการจัดการคุณภาพ ISO 9001 ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001 ตลอดจน มาตรฐานระบบการจัดการอาชีวะอนามัยและความปลอดภัย มอก.18001 และ ISO 45001 จึงเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นในพันธะสัญญาสู่การยอมรับในมาตรฐานระดับสากล พิสูจน์ถึงศักยภาพ ในการเป็นผู้นําของผู้ผลิตคาร์บอนแบลก ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ในทุกระดับอย่างไม่หยุดยั้ง
TCP พิถีพิถันทุกขั้นตอนการผลิตซึ่งออกแบบให้มีการเชื่อมโยงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพโดยมี กระบวนการผลิตดังนี้

น้ำมันชนิดหนักหรือสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่ได้จากกระบวนการกลั่นน้ำมันจะถูกส่งเข้าสู่อุปกรณ์อุ่นน้ำมันที่ อุณหภูมิ 200 °c เพื่อลดความหนืดของน้ำมัน แล้วฉีดพ่นเข้าสู่เตาปฏิกรณ์ที่อุณหภูมิ 1300-1800 °C เพื่อให้เกิดการแตกตัวของน้ำมันหนักเป็นผงคาร์บอนแบลกและก๊าซ

ผงคาร์บอนแบลกและก๊าซที่ได้จะเข้าสู่กรรมวิธีการลดอุณหภูมิเหลือ 250-300 °C แล้วส่งผ่านสู่ขั้นตอนการแยกผงคาร์บอนแบลกและก๊าซออกจากกัน ผงคาร์บอนแบลกที่ได้จากการกรองจะส่งต่อเข้ากระบวนการต่อไป ในขณะที่ก๊าซถูกหมุนเวียนกลับมาใช้อีกในขั้นตอนการผลิตอื่นๆ เพื่อประหยัดพลังงานและลดต้นทุนการผลิต ผงคาร์บอนแบลกบางส่วนที่ได้จะจับกันเป็นก้อน จึงต้องนําเข้าสู่กระบวนการบดให้เป็นผงที่ละเอียดอย่างทั่วถึง แล้วจึงนําเข้าสู่ขั้นตอน ของการอัดเป็นเม็ดด้วยวิธีการอัดเม็ดแบบเปียกเพื่อให้ได้ความหนาแน่นเพิ่มขึ้นและมีขนาดเหมาะสม ตามคุณสมบัติที่ต้องการ ระหว่างนี้มีการควบคุมคุณภาพโดยตรวจสอบขนาดของเม็ดผ่านทางโทรทัศน์วงจรปิดตลอดเวลา จากนั้น จะเป็นการขจัดน้ำและความชื้นออกจากเม็ดคาร์บอนแบลกโดยการอบแห้งด้วยก๊าซร้อน ที่ได้มาจากกระบวนการผลิต ซึ่งหมุนเวียนนํากลับมาใช้ใหม่ แล้วจึงลําเลียงเม็ดคาร์บอนแบลกโดยระบบสายพานสูญญากาศ คัดขนาดเม็ดด้วย Vibrating Screen และแยกโลหะเจือปนด้วย Rotary Magnet Separator การตรวจสอบคุณภาพครั้งสุดท้าย ก่อนและหลังการบรรจุ เพื่อให้มั่นใจว่าผงคาร์บอนแบลกปลอดการปนเปื้อน มีการเจือปนของฝุ่นน้อยที่สุดและมีคุณภาพตรงตามความต้องการ

TCP ตระหนักถึงความสําคัญของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพตลอดขั้นตอนการผลิต จนถึงการบรรจุหีบห่อ
เพื่อจัดส่งถึงลูกค้า โดยมีระบบ Quality Assurance หรือ QA เพื่อตรวจสอบและควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ อย่างต่อเนื่องในทุกขั้นตอนสําคัญ เมื่อตรวจสอบพบความผิดปกติในกระบวนการผลิตก็สามารถคัดแยกผลิตภัณฑ์ ที่ไม่ตรงตามมาตรฐานที่กําหนดไว้ออกจากสายการผลิตได้ในทันที ทุกคุณภาพของคาร์บอนแบลกที่ผลิตโดย TCP จึงเป็นที่ยอมรับในมาตรฐานสากล ด้วยจุดเด่นที่เหนือกว่าในเรื่องความสม่ำเสมอของขนาดเม็ด มีสิ่งเจือปนน้อยที่สุด และไม่ก่อให้เกิดปัญหาในขั้นตอนการผลิตยางคุณภาพของลูกค้า